รีวิว วิศวะ จุฬา ภาคไฟฟ้า ปี 2 เทอม 2 ของ รุ่น 107 ver.เอาวิชาปี3มาเรียน
Caution
:
1.การเรียนรีวิวนี้สามารถใช้ได้กับนิสิตวิศวะ
ไฟฟ้า จุฬาปี 2 รุ่น 107-111 เพราะเป็นหลักสูตรใหม่แต่ก็มีบางวิชาที่เหมือนหลักสูตรเก่าเป๊ะๆ อย่าง EMAG
2.การรีวิวนี้เป็นของปีการศึกษา
2567 และเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของพี่เองทั้งหมดเลยอาจจะมีการใส่อคติกับเวลาที่ไม่ชอบครับผมโดยเฉพาะ Circuit Lab
3.รีวิวผมจะมีรีวิวเพิ่มมาอีก 2 วิชา คือวิชา Phys
Daily เป็น GenEd หมวดวิทย์
และตั้งแต่รุ่นผม GenEd ทุกวิชาในทุกหมวดจะไม่มีเกรดเป็นแค่
S/U และวิชา ENV STUD เป็น Free Elective เปลี่ยนเป็น S/U เช่นกัน
Introduction :
หลังจากผ่านเทอมหนึ่งได้เทอมนี้รู้สึกสบายกว่าเพราะหลายวิชาเมื่อเทียบกับหลักสูตรเก่าเหลือ
2 หน่วยกิตจากเดิม 3 นั้นคือตัดบางบทออกไปบางวิชาก็ยัง 3แต่ใส่บทใหม่เข้ามาแทน
และตารางเรียนก็แน่นเหมือนเดิมเรียน 4 วันทั้งเช้า-บ่ายส่วนวันศุกร์ว่างตามเคย
ไปดูรีวิวกันเลย
Elementary Linear Algebra
and Applications
(ตัด Complex ออกแล้วเพิ่ม Matrix Decomposition)
ความยาก : 8.5 / 10
การตัดเกรด : < 40 = F and >= 80 = A เกรดที่เหลืออิงกลุ่มเอา
การเก็บคะแนน : การบ้าน 15 คะแนน ควิซ 2 ครั้งครั้งละ 7.5 คะแนน สอบกลางภาค 35 คะแนน สอบปลายภาค 35 คะแนน
เนื้อหาที่เรียน
กลางภาค : Linear
systems + Inverse + Elementary matrices + Determinants
Eigenvectors/Eigenvalues
+ Functions of square matrices + Applications to differential
equations Special matrices + Least Squares
ปลายภาค : matrix
decomposition vector spaces and Linear transformations
รีวิววิชาเรียน
รีวิว Quiz 1 Linear Algebra
Q1 (10 points) Linear systems / Inverse of matrices /
Elementary matrices
Q2 (10 points) Determinants / Eigenvalues /
Eigenvectors
ข้อแรกเก็บคะแนนยากเพราะRow Op แล้วถึกส่วนข้อสองง่ายมากมองตอบ
รีวิว Quiz 2 Linear Algebra
Q1fun (Least-squares) Q2fun
(Least-norm) Q3-matcomp
SVD part (10pts), LU part (10pts), Cholesky part
(10pts) เป็นการสอบโดยใช้โปรแกรม MATLAB ผ่านศูนย์คอมคณะโดยสอบเสร็จแล้วไปเรียนต่อกล่าวคือไม่ใช้คาบเรียนเป็นการสอบ
เอากระดาษ A4
ที่จดด้วยลายมือเข้าได้ 1 แผ่น อย่ามาสายเพราะช่วงสอบจะตัดเน็ต
+ ส่งให้ทันเวลา
รีวิว กลางภาค Linear Algebra
ข้อสอบมี 6 ข้อ
อ.ออกคนละ
2 ข้อ ข้อละ 15 คะแนนไม่ดิบ ข้อ 1 เกี่ยวกับเรื่อง
Special Matrix ถามว่าเมทริกซ์ไหนเป็น Orthogonal Permutation Symmetric Matrix นั้นหมายความว่าถ้ารู้นิยามของแต่ละอันก็ทำได้เลย
ข้อ 2 เกี่ยวกับเรื่อง Least Square Linear Curve Fitting เรื่องไหนนี้ละที่มาในหลักสูตรใหม่เริ่มที่รุ่น
107 การให้คะแนนแบ่งเป็น 1.เขียนสมการเชิงเส้นในรูปเวกเตอร์ โดยให้
ค่าความชัน และค่าตัดแกน เป็นพารามิเตอร์ที่ต้องประมาณค่า 4 คะแนน 2.คำนวณพจน์ที่จำเป็นสำหรับการประมาณค่า
4 คะแนน 3.เขียนค่าพารามิเตอร์ที่ประมาณได้ และ
อธิบายว่าเราสามารถทำการฟิตข้อมูลได้แบบสมบูรณ์หรือไม่ 5 คะแนน 4.วาดกราฟของเส้นตรงที่ได้ 2 คะแนน ข้อ 3
เกี่ยวกับเรื่อง
Linear System/Inverse Elementary
Matrix/Det/Diagonalization การให้คะแนนแบ่งเป็น พาร์ท a หาค่า Eigen
value/vector ได้ 3 คะแนน สามารถหา Diagonalizing และ Inverse ได้ 2 คะแนน
ให้เมริกซ์แนวทแยงได้ 2 คะแนน พาร์ท b เอาพาร์ท a
เปลี่ยนจาก
Ax=0 เป็น Ax=b และทำให้ระบบมีคำตอบ
สามารถหาพหุนามของเมทริกซ์ได้ 3 คะแนน หารูป Echelon ของ Augmented
Matrix ได้ 1 คะแนน
หาคำตอบทั่วไปของระบบสมการพร้อมกับเงื่อนไขที่จำเป็นได้ 2 คะแนน พาร์ท c
เช็คว่าเมทริกซ์เป็นเอกฐานหรือไม่
2 คะแนน ข้อ 4 เกี่ยวกับเรื่อง Eigenvalue/vector Diagonalization and its application พาร์ท a สร้าง modal
matrix และหา Inverse ของมันได้ 1
คะแนน
อธิบายได้ว่าทำไมเป็น Invertible ได้ 1 คะแนน หา
Inverse โดยวิธีการ Diagonalization ได้ 4 คะแนน
พาร์ท b สามารถเลือกค่า eigenvalues 3 ค่าได้ โดยเป็นไปตามเงื่อนไข 2 ข้อที่กำหนดได้ 1.5 คะแนน
ทำการ Diagonalize Matrix B ได้ 3 คะแนน หา
Matrix B ได้ 1.5 คะแนน
สามารถหาค่า Eigenvalues of Matrix C ที่สอดคล้องกับ Eigenvector ที่ให้มาได้ 3 คะแนน
ข้อ 5 เกี่ยวกับเรื่อง
Eigenvalues/vectors/Diagonalization แบ่งเป็น พาร์ท a หาค่า eigenvalues
ของ A f(A) หาค่า eigenvectors
ของ A f(A) หาค่า det
ของ f(A) พาร์ท b อธิบายได้ว่า A^2x=lamda^2x และทำไม lamda^2 = 1 ดังนั้น lamda = -1 หรือ 1 ข้อ 6เกี่ยวกับเรื่อง
Applications of Eigenvalues/vector to
diff equa แบ่งเป็น
พาร์ท a แก้สมการ diff x(t) = Ax(t) ; x(0) = x_o where A = 3x3 พาร์ท b ใช้ Matrix
A จากพาร์ท
a หาค่า eigenvalues/vectors Diagonalizing matrix T หา T^-1 หา e^At ใช้วิธี diagonalization
แสดงวิธีทำ y(t)
and z(t)
รีวิว ปลายภาค Linear
Algebra
ข้อสอบมี 6 ข้อ เริ่มที่ข้อแรก Matrix Decomposition ออกเกี่ยวกับการ Cholesky ใน Matrix 4x4 ไม่ยากแต่เสียคะแนนง่ายเพราะทำลัดเกินไป ข้อสอง Vector Space เกี่ยวกับ Subspace ของ Matrix 2x2 + เล่นกับเรื่อง Eigenvalues หลายคนเสียคะแนนตรงทำลัดเกินกับหาค่า eigenvalues ไม่ออก ข้อ 3 เกี่ยวกับ Vector Space แนวพิสูจน์ เริ่มที่หา basis and dimension of W ต่อด้วยหา basis of W ในกรณีที่ W เป็น R^4 ปิดท้ายด้วยหา nullity of a matrix by dimension theorem ข้อ 4 เกี่ยวกับ Linear Transformation แบบ composition เริ่มที่หา composition ของ Linear Trans ทั้งสอง ต่อด้วยบอกว่า T1 หา inverse ได้ไหมถ้าได้ได้เท่าไหร่ ปิดท้ายด้วยเอา T1^-1 มาหา image of a vector R^3 ข้อ 5 Vector Space (a) Define as the set of all vectors for which always has a solution. Determine a basis and the dimension of .
- Perform elementary operations to carry the given matrix to an echelon matrix correctly. (1 point).
- Use the echelon matrix to obtain a basis of and its dimension correctly. (3 points)
(b) Is the vector in ?
- Show that the vector is written as a linear combination of the obtained basis vectors in (a). (2 points)
(c) Find a basis of which includes the vector .
- Show that the vector . (2 points)
- Choose the other two vectors to form the required basis correctly. (2 points) ข้อ 6 Linear Transformation (a) Find the formula for .
- Express as a linear combination of the given basis vectors (1 point)
- Find the required formula correctly. (2 points)
(b) Is one to one?
- Show that is not one to one (2 points)
(c) Is onto?
- Show that is not onto. (2 points)
(d) Find a basis of .
- Show that is spanned by a set of 4 matrices. (1 point)
คำแนะนำ : 1.ฝึกเขียนโค้ดใน MATLAB 2. ทำโจทย์ใน Student Exercises 3.ทำการบ้านที่ได้มาให้ดี 4.จำทฤษฎีบางข้อเพราะช่วยให้ทำข้อสอบได้เร็ว
หนังสือแนะนำ :
หนังสือ |
W. K.
Nicholson, Linear Algebra with Applications, Open Edition, Lyryx Online
Resources, 2018 or 2021. |
|
หนังสือ |
H. Anton and C.
Rorres, Elementary Linear Algebra, 10th edition, John Wiley, 2010. |
|
หนังสือ |
S. Boyd and L.
Vandenberghe, Introduction to Applied Linear Algebra: Vectors, Matrices, and
Least squares, Cambridge Press, 2018. |
|
หนังสือ |
ศ.ดร.มงคล เดชนครินทร์, คณิตศาสตร์วิศวกรรมไฟฟ้า, พิมพ์ครั้งที่ 3, สำนักพิมพ์จุฬาฯ, 2006. (บทที่ 16-22) |
Engineering Electromagnetics
(บอก 2 หน่วยกิตแต่เรียนเหมือน 3 หน่วยกิต)
ความยาก : 9 / 10
การตัดเกรด : < 40 = F and >= 80 = A เกรดที่เหลืออิงกลุ่มเอา
การเก็บคะแนน : ควิซ 6 ครั้งครั้งละ 5 คะแนน สอบกลางภาค 35 คะแนน สอบปลายภาค 35 คะแนน
เนื้อหาที่เรียน
กลางภาค : 1.
Electric field and force 2. Gauss' law 3. Electric potential 4. Energy of
electric field 5. Boundary conditions between media 6. Electric field in
matters (multiple media) 7. Method of images (in free space and in media)
8.
Capacitance and energy และ Magnetostatics 3 บทแรก
ปลายภาค : Magnetostatics 3 บทหลัง
และ Electromagnetics
รีวิววิชาเรียน
รีวิว Quiz 1 Eng EMAG
ข้อสอบมี1ชุดมี2ข้อ ข้อแรกคือ ณ Free Space มีประจุไฟฟ้า Q1 = 10 ไมโครC อยู่ที่ตำแหน่ง (0,1,-1) Q2 = -20 ไมโครC ที่ (0,1,1) Q3 = 10 ไมโครC ที่ (0,-1,1) และ Q4 = 10 ไมโครC ที่ (0,-1,-1) จงคำนวณหาแรง F ที่กระทำกับ Q3 โดยตอบในรูป ระบบ xyz และ
ระบบพิกัดทรงกลม ซึ่งอาจารย์ให้ตารางการแปลงระบบมาเย้
ข้อสองคือ
ท่อทรงกระบอกกลวงมีรัศมีภายใน R1 = 5 cm และรัศมีภายนอก R2 = 7 cm มีประจุกระจายอยู่อย่างสม่ำเสมอ ด้วยความหนาแน่น p = 5 nC/m^3 ภายในเนื้อท่อ
ถ้าท่อนี้มีความยาวมากในแนวแกน z จงหาเวกเตอร์สนามไฟฟ้าที่ตำแหน่งรัศมี
r = 6 cm เมื่อตัวกลางภายในท่อเป็นอากาศ
รีวิว Quiz 2 Eng EMAG
มี 3 ข้อแต่ละข้อไม่มีข้อย่อยเท่าที่จำได้คือ
ข้อแรก เกี่ยวกับ Electric Flux Density ข้อสอง เกี่ยวกับ Boundary Conditions ถ้าทำข้อแรกไม่ได้จะทำข้อสองต่อไม่ได้
ข้อสาม ออกเกี่ยวกับ Methods of Images ถือว่ายากมากเมื่อเทียบกับ Quiz 1
รีวิว Quiz 3 Eng EMAG
ข้อสอบมี 3 ข้อตามเคยไม่มีข้อย่อย
แต่คราวนี้ทุกข้อจะเกี่ยวกับเรื่อง MAGNETOSTATICS
ครึ่งแรก 2 ข้อแรกเกี่ยวกับ Steady Electric Current ถาม R กับ P อย่างละข้อ
อีกข้อเกี่ยวกับเรื่อง Ampere’s Law โดยรวมยากกว่า Quiz 1 แต่ง่ายกว่า Quiz
2
รีวิว Quiz 4 Eng EMAG
ข้อสอบมี 4 ข้อ ข้อแรกเกี่ยวกับลูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ให้หา magnetic dipole moment / magnetic force on each side
/torque / torque makes angle decrease or increase and angle when torque max and
when zero ข้อสอง
ให้บอก อนุภาค a b c ที่อยู่ใน uniform magnetic field แต่ละอันมีประจุอะไรบ้าง ข้อสามเป็น north pole magnet toward a conductor loop ถามทิศทางเมื่อมองจากด้านบน ข้อ 4 มี 4 ช้อยส์เกี่ยวกับเรื่องสนามแม่เหล็กไฟฟ้าถามว่าช้อยส์ไหนผิด
รีวิว Quiz 5 Eng EMAG
ข้อสอบมี 4 ข้อ ข้อแรก จงเขียน 1) สมการของแมกซ์เวลล์ให้อยู่ในรูปของ Phasor ในรูปของสนามไฟฟ้า
𝑬⃗ และ สนามแม่เหล็ก 𝑯⃗ เท่านั้น ใส่คำตอบในตารางตรงกลาง 2) สมการของแมกซ์เวลล์ให้อยู่ในรูป ของ Phasor กรณีที่ไม่มีแหล่งกำเนิด
(Source-free) และเคลื่อนที่ในไดอิเล็กตริกที่ไม่มีการ สูญเสีย (Lossless Dielectric) ข้อสอง
ให้แปลงสนามไฟฟ้า Time-Harmonic Field เป็น Phasor ข้อสาม ให้แปลงสนามไฟฟ้า Phasor เป็น Time-Harmonic
Field ข้อสี่ จงหาค่าสนามไฟฟ้า
𝐸⃗ ในรูปของ Time-Harmonic Field (Time-Domain) โดยคลื่นเคลื่อนที่ไปในทิศทาง +z ในสุญญากาศ (Free
space, Lossless) ไม่มีแหล่งกำเนิด
(Sourcefree) และมีค่า Phase constant เท่ากับ 1 (𝛽 = 1) โดยใช้วิธีใดก็ได้
รีวิว Quiz 6 Eng EMAG
ข้อสอบมี 2 ข้อ มีสูตรมาให้ครบ ข้อแรก เมื่อให้สนามไฟฟ้ามีส่วนประกอบของเวกเตอร์ในระนาบ
XY มีความถี่500 MHz เคลื่อนที่ในสุญญากาศ (Free
space) และไม่มีแหล่งกำเนิด (Source-free) จงหา
1) ความถี่เชิงมุม (0.5 คะแนน) 2) ค่าความยาวคลื่น (Wavelength)
(0.5 คะแนน) 3) ความเร็วเฟส (Phase Velocity) (1 คะแนน)
4) Phase Constant หรือ Propagation Constant (1 คะแนน) 5) Intrinsic
Impedance (1 คะแนน) 6) สนามไฟฟ้าในแกนเวลา
𝐸⃗ (𝑡) (Time-Harmonic Field หรือ Instantaneous Electric Field) (1 คะแนน) ระบุให้ชัดเจนว่าข้อไหนตอบคำตอบอะไร
ข้อสอง คลื่นระนาบเคลื่อนที่ในสุญญากาศ (Free Space) ซึ่งเป็นตัวกลางตัวที่
1 ไปตกกระทบยังวัสดุไดอิเล็กทริกที่ไม่มีการสูญเสีย
(Lossless Dielectric) ซึ่งเป็นตัวกลางตัวที่ 2 ในทิศทาง +z ดังแสดงในรูปภาพ
ให้ความถี่เชิงมุมเท่ากันทั้ง 2 ตัวกลาง โดย สนามไฟฟ้าตกกระทบมีส่วนประกอบของเวกเตอร์ในทิศ
จงหา 1) ความถี่เชิงมุม (0.5 คะแนน),
2) Propagation Constant หรือ Phase Constant ของตัวกลางที่
2 (0.5 คะแนน), 3) Intrinsic Impedance ของตัวกลางที่ 1 และ 2 (0.5 คะแนน),
4) ค่าสัมประสิทธิ์การสะท้อน (0.5 คะแนน),
5) ค่าสัมประสิทธิ์ การส่งผ่าน (0.5 คะแนน),
6) สนามไฟฟ้าคลื่นตกกระทบในแกนเวลา 𝑬⃗ 𝒊(𝒕) (Time-Harmonic Field หรือ Instantaneous
Electric Field) (1.25 คะแนน), 7) สนามไฟฟ้าคลื่นส่งผ่านในแกนเวลา
𝑬⃗ 𝒕(𝒕)
(Time-Harmonic Field หรือ Instantaneous Electric Field)
(1.25 คะแนน) ระบุให้ชัดเจนว่าข้อไหนตอบคำตอบอะไร
รีวิว กลางภาค EMAG
ข้อสอบมี 10 ข้อ แบ่งเป็น
Electrostatics 7 ข้อ 40 คะแนนไม่ดิบ
และ Magnetostatics 3 ข้อ 20 คะแนน
ภาพรวมข้อสอบง่ายกว่าหลักสูตรเก่าอย่างเห็นได้ชัดบางข้อแจกคะแนนเลยก็มีแต่ส่วนใหญ่ก็ยังเป็นกลางค่อนยาก
พาร์ทแรกออกทุกหัวข้อ ที่ออกเยอะเป็นทรงกระบอกที่มีแกนร่วมกัน
พาร์ทสองข้อสอบเป็นภาษาอังกฤษและออกแค่ 3 บทแรกเพราะอีก 3 บท จะไปออกในปลายภาคกับ Magnetics
รีวิว ปลายภาค EMAG
ข้อสองมี 7 ข้อ พาร์ทแรกมี 3 ข้อ เป็น
Magnetostatics ครึ่งหลังไม่ยากกลางๆ เป็น volts emf and Faraday Laws พาร์ทสองมี 4 ข้อ ไม่มีLossyมีแต่Losslessเหมือน Quiz 6 แทนค่าตอบได้เลย
แค่ขึ้นมาหน่อยกับข้อย่อยในแต่ละข้อเยอะขึ้นเรียกได้ว่าถ้าจดโจทย์ในสไลด์มากับจดสูตรมาครบง่ายเลยยยยยยยเลยเป็นสาเหตุว่าทำไมหลายคนออกตั้งแต่ยังไม่ครบ
2 ชั่วโมง
คำแนะนำ : 1.วิชานี้กลางภาคและปลายภาคจดสูตรเข้าได้
1 แผ่น A4 หน้า-หลัง
ถ้าที่เหลือก็จดโจทย์ข้อสอบเก่าได้ 2.
ทำโจทย์ใน Student Exercises 3.ทำโจทย์ในสไลด์ซ้ำ
หนังสือแนะนำ :
หนังสือ |
David K. Cheng,
Field and Wave Electromagnetics, Addison-Wesley, ISBN 0201128198. |
|
หนังสือ |
William Hayt
and John Buck, Engineering Electromagnetics, McGraw-Hill Education, ISBN
1260084566. |
|
หนังสือ |
David J.
Griffiths, Introduction to Electrodynamics, Cambridge University Press, ISBN
9781108420419. |
|
หนังสือ |
วุฒิพล ธาราธีรเศรษฐ์, สนามแม่เหล็กไฟฟ้า (Electromagnetic
Fields), บมจ. ซีเอ็ดยูเคชั่น, ISBN
9786160834914. |
Digital System
(ตัดทฤษฎีบทท้ายๆกับ2แลปท้ายออก)
ความยาก : 7.0 / 10
การตัดเกรด : < 40 = F and >= 85 = A เกรดที่เหลืออิงกลุ่มเอา
การเก็บคะแนน : เข้าคลาส 5 คะแนน การบ้าน 5 คะแนน ควิซ 2 ครั้งครั้งละ 5 คะแนน แลป 2 ครั้งครั้งละ 5 คะแนน สอบกลางภาค 35 คะแนน สอบปลายภาค 35 คะแนน
เนื้อหาที่เรียน
กลางภาค : บทที่ 1-5
and 7
ปลายภาค : 8-9 and 11
รีวิววิชาเรียน :
รีวิว Quiz 1 Digital System
ข้อสอบมี 3 Parts พาร์ทละบทปีเราสอบบทที่1-3 บทที่ 4 ไม่ออกเพราะสอนไม่ทัน พาร์ทแรกเป็นเลือกว่า T หรือ F ตอบถูกได้คะแนนตอบผิดถูกหักคะแนน
เว้นว่างไม่ตอบได้0คะแนน พาร์ทสองเป็นเรื่อง Boolean Algebra ธรรมดาวัดความรอบคอบส่วนพาร์ทสามแทบจะเหมือนพาร์ทสองไม่ได้เพิ่มหัวข้ออะไรมาเยอะขนาดนั้น
โดยรวมข้อสอบไม่ได้ออกยากมากแต่สะเพร่ากันเยอะไม่ว่าจะเป็นคิดเลขผิด
มองเป็นคณิตศาสตร์แทนที่จะมองเป็นตรรกศาสตร์
ทำให้หลายๆคนรวมถึงเราได้คะแนนน้อยกว่าที่ควรจะได้
รีวิว Quiz 2 Digital System
ข้อสอบมีทั้งหมด 3 parts parts ละบท พาร์ทแรกแทบจะยังเหมือนบทที่ 7 คือเติม Bubbles
และวาดรูปวงจรจากสมการที่กำหนดให้โดยใช้
Nand Gate 2 inputs พาร์ทสองเป็นบท 9 สร้าง Multiplexers
จาก Mux ที่กำหนดให้ และ สร้าง 3-8 Decoders จาก 2-4 Decoders + Enables พาร์ทสามเป็นบท 11 เป็นโจทย์ที่เกี่ยวกับ
Flip Flops ที่สร้างขึ้นมาเองแล้วถ้า input ตัวหนึ่ง =
1 จะได้ Q+ = sth ถ้า input
ตัวเดิม = 0 จะได้ Q+
= อีกค่าหนึ่ง
ให้หา Symbol Characteristic Equation
Function Table etc.
รีวิว Lab 1 Digital System
งานกลุ่มแบ่งนิสิตเป็นกลุ่มละ 3 คน เรียงตามรหัสเลขนิสิต
แต่ละกลุ่มจะได้รับกล่องที่มีอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ตัวต้านทาน สายไฟ หลอดไฟ
เพื่อใช้ในการทำงาน แลปครั้งนี้มี 2 หัวข้อ
หัวข้อแรกเกี่ยวกับต่อวงจรลงบอร์ดให้ตรงกับทฤษฎีในบทที่2ที่กลุ่มเราได้ เช่น Duality หัวข้อที่สองทุกกลุ่มออกแบบเกี่ยวกับ The full adder circuit
รีวิว Lab 2 Digital System
เป็นกลุ่มเดิมกับแลปครั้งที่ 1มี 5 หัวข้อ 4 หัวข้อแรกทำเหมือนกันทุกกลุ่ม หัวข้อแรกเป็น Pre Lab ทฤษฎี หัวข้อสองทำเกี่ยวกับ Not Latch หัวข้อสามเกี่ยวกับ SR Latch (Nor Gate) หัวข้อสี่เกี่ยวกับ D Latch (Nand Gate) หัวข้อสุดท้ายเกี่ยวกับ Flip Flop ให้ต่อลงบอร์ดตามชนิดที่เราได้เช่น JK
รีวิว กลางภาค Digital System
ข้อสอบมี 3 พาร์ท พาร์ท A
เกี่ยวกับ
บทที่ 1 พาร์ท B เกี่ยวกับ บทที่ 2 3 4 พาร์ท C เกี่ยวกับ บทที่ 5 7 บท 6 ไม่ออกสอบถ้าอยากเรียนจะอยู่ในวิชาของสาขาคนที่เลือก
ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์
การให้คะแนนของทุกพาร์ทเป็นรูปแบบเดียวกันถ้าข้อนั้นเป็นแสดงวิธีทำ
ถ้าคำตอบไม่ถูกก็ยังได้คะแนนจากวิธีทำได้ แต่ถ้าข้อนั้นเป็นเติมคำตอบ
ถ้าเขียนขาดหรือเขียนเกินจะไม่ได้คะแนนในข้อนั้นเลย ไม่มีข้อช้อยส์
ความยากข้อสอบประมาณ Quiz 1 – HWs และสามารถฝึกโจทย์เพิ่มเติมได้จาก Roth กับ ในคลังแสง
โดยรวมข้อสอบไม่ยากแต่ที่หลายคนได้คะแนนน้อยกว่าที่คิดไว้รวมถึงเราด้วยเพราะเกิดจากพลาดไม่ก็ลืมบางจุดไป
รีวิว ปลายภาค Digital System
ข้อสอบมี 3 พาร์ทเหมือนกลางภาคแต่คราวนี้เป็นพาร์ทละบท
เริ่มที่พาร์ท A บทที่ 8 50% เป็นบทที่ 7
คือสร้างวงจรตามที่โจทย์กำหนดกับเติม
Bubbles ให้เป็น Nand ไม่ก็ Nor
Gates ส่วนอีก 50% เป็นเรื่อง Gate
Delays โจทย์กำหนดวงจรมาแล้วให้เติมเส้นในกราฟเหมือนในสไลด์เลย
พาร์ท B บทที่ 9พาร์ทนี้ยากสุด ส่วนส่วนง่ายก็มีการ priority ของ Encoder
การสร้างตาราง
Decoder และ Tri State Buffers 2 อันเจอกัน เช่น 1 เจอ 1 ได้ 1 เติมถูกก็คะแนนมา
ส่วนที่ยากคือการสร้าง Multiplexers จาก Mux / Decoder / Encoder หรือ Decoder
จาก Decoder ด้วยกันเองโดยโจทย์แบบนี้เพิ่ม gates or enables ได้แต่ต้องตามความเหมาะสม พาร์ท C บทที่ 11 พาร์ทนี้ง่ายแต่ไม่เท่าพาร์ทแรก 50% คือถามตรงไปตรงมา เกี่ยวกับ Latch and Flip Flops ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นรูปวงจร Symbol Characteristic Equation Function Table etc.ก็คือใครจำเก่งไม่ต้องเข้าใจก็ทำได้แล้ว
แล้วก็มีถามนิยามคำต่างๆเช่น propagation
time ส่วนที่ยากคือ
Flip Flop ที่กำหนดขึ้นมาแล้วถาม Symbol Characteristic Equation Function Table etc. ซึ่งโจทย์หลายคนบอกว่าอ่านแล้วงงเลยเว้นว่างเอาไว้ทั้งข้อ
คำแนะนำ : 1.วิชานี้ใช้ความเข้าใจมากกว่าจำ 2. ทำโจทย์ในคลังแสง 3.วิชานี้ใช้เครื่องคิดเลขไม่ได้
หนังสือแนะนำ :
หนังสือ |
Fundamentals of
Logic Design |
Roth and Kinney |
Properties of Electrical and Electronic Materials
(ตัดบทที่เกี่ยวข้องกับเคมีออก)
ความยาก : 8.0 / 10
การตัดเกรด :
การเก็บคะแนน : ควิซ 4 ครั้งครั้งละ 5 คะแนน สอบกลางภาค 40 คะแนน สอบปลายภาค 40 คะแนน
เนื้อหาที่เรียน
กลางภาค : Electrical
Properties and Dielectric Properties
ปลายภาค : Optical
Properties and Magnetic Properties
รีวิววิชาเรียน
รีวิว Quiz 1 Prop Mat
ข้อสอบมี 2 ชุด ชุดละ 3 ข้อเท่ากัน 2 ข้อแรกถามเหมือนกันแตกต่างกันแค่ที่ข้อ 3 ทุกข้อเกี่ยวกับบท Resistivity and Thermal ให้ตารางค่าต่างๆของ Gold/Tin มาแล้วก็ให้สูตร Heterogeneous Mixture ข้อแรกถามตำแหน่ง X1 ในกราฟ (จุดแบ่งระหว่าง Nordheim Rule and Mixture Rule) ข้อสองถามค่า Resistivities ตำแหน่งที่ p1/p2/p3 จากกราฟที่ให้มา ข้อสามชุด a ถามเมื่อใส่ ดีบุกsolubility limit จนเกินเป็นก้อนดีบุกกระจายอยู่ในโลหะผสมโดยดีบุกกระจายตัว
10%vol Find Resistivity ของโลหะผสมพร้อมอธิบายเหตุผลการเลือกใช้สูตรในการหาค่า
ข้อสามชุด b ในขณะที่สังเคราะห์โลหะผสมที่จุด Solubility Limit เกิดฟองอากาศกระจายตัว 10%vol จงหา Resistivity
ของโลหะผสมพร้อมอธิบายเหตุผล
รีวิว Quiz 2 Prop Mat
ข้อสอบมี 2 ข้อไม่มีข้อย่อย ข้อแรก คือ CsCl
crystal has one Cs+ and one Cl- pair per unit cell with a lattice parameter (a)
of 0.412 nm. Calculate the number of ion pairs per unit volume (Ni ). ข้อสอง คือ Describe the four main mechanisms that cause
dielectric materials to develop electric dipoles when placed under an electric
field.
รีวิว Quiz 3 Prop Mat
ข้อสอบมี 2 ชุด ชุดละ 3
ข้อเท่ากัน
ข้อแรกเกี่ยวกับ แสงขาวที่ตกกระทบสู่ปริซึมสามเหลี่ยม ให้ร่าง7สีที่ออกมาจากปริซึมสามเหลี่ยม
และให้หาว่าสีไหนโค้งงอมากที่สุดและน้อยที่สุด ข้อสองเกี่ยวกับ Sellmeier Equation ให้หาค่าดัชนีหักเหของ Fused Silica and Germania โดยอาจารย์ให้ Cauchy Coefficients ก็คือแทนค่าตอบได้เลย
ข้อสามเรื่องเดียวกับข้อสอง ให้หา refractive
index and group index แล้วถามว่า เฟสหรือกลุ่ม ความเร็ว
เร็วกว่ากันเมื่ออยู่ในเพชรที่ความยาวคลื่นที่กำหนดให้
รีวิว Quiz 4 Prop Mat
ข้อสอบมี 2 ชุด ชุดละ 4
ข้อเท่ากันเปลี่ยนแค่ตัวเลขแต่ถามเหมือนกัน
ข้อ1 .
Draw the magnetic field lines and directions of the following configurations: ข้อ 2 List five different types of magnetic materials and describe how they
interact with a magnet (strongly/weakly attracted/repulsed)? Arrange their
magnetic susceptibility (cm) values from the largest to smallest. ข้อ 3 Consider a long solenoid with a core that is an iron alloy. Suppose
that the diameter of the solenoid is 2 cm and the length of the solenoid is 50
cm. The number of turns on the solenoid is 300. The current is increased until
the core is magnetized to saturation at about I = 1 A and the saturated
magnetic field is 1 T. (a) What is the magnetic field intensity at the center
of the solenoid and the applied magnetic field, moH, for saturation? (b) What is the saturation magnetization Msat of
this iron alloy? (c) If we were to remove the iron-alloy core and attempt to
obtain the same magnetic field of 1 T inside the solenoid, how much current
would we need? ข้อ 4 The maximum magnetization, called saturation
magnetization Msat, in Cobalt (Co) is 1.45 ´
106 A/m. This corresponds to all possible net spins aligning parallel to each
other. Calculate the effective number of Bohr magnetons per atom that would
give this Msat, given that the density and relative atomic mass of Co are 8900
kg/m3 and 58.933, respectively. (Hint: Bohr magnetons = 9.274 ´ 10-24 A.m2 ).
รีวิว กลางภาค Prop Mat
ข้อสอบมีทั้งหมด 11 ข้อ
ให้ค่าคงที่มาครบหมดและให้เขียนคำตอบและแสดงวิธีทำลงในสมุดที่ให้มา พาร์ท Electrical Properties มี 6 ข้อ
แบ่งเป็น บรรยาย 3 ข้อ และคำนวณ 3 ข้อ พาร์ท Dielectric
Properties มี 5 ข้อ แบ่งเป็น บรรยาย 3 ข้อ และคำนวณ 2 ข้อ
ภาพรวมข้อสอบยากเพราะต้องจำสูตรเข้าไปซึ่งสูตรเยอะ
ยิ่งบรรยายยิ่งเยอะกว่าเพราะกว้างมากออกอะไรก็ได้ เช่น
รายละเอียดย่อยที่น้อยคนจะรู้ คะแนนเป็นประกาศผ่าน Excel =
เห็นคะแนนคนอื่นด้วย ขนาดอาจารย์ตรวจแบบช่วยมากๆแล้วคะแนนก็ไม่สวยอยู่ดี
รีวิว ปลายภาค Prop
Mat for EE
ออก 2 บท Optical and Magnetic ข้อสอบมี 2 ข้อข้อละบท ในแต่ละข้อมี 5 ข้อย่อยในแต่ละข้อย่อยมีข้อย่อยไปอีกไม่ 2ก็3หรือไม่มีเลย ข้อย่อย โดยเรียงจากง่ายสุดไปยากสุดทั้งคู่
ส่วนสูตรให้แค่ของ Fresnel มาที่เหลือต้องจำเข้าไปเอง เริ่มที่ 1.1 ถามทฤษฎี 1.2
แทนค่า 1.3 เป็นกรรีที่โจทย์กำหนดมา 1.4 อธิบายกฎ Snell
1.5 ออกแบบอุปกรณ์ซึ่งหลายคนไม่ได้คะแนนใน1.4-1.5เลยหรือได้แค่1คะแนน/ข้อ 2.1 ถามนิยาม Superconductivity
2.2 วาดกราฟ H-M Curves 2.3 วาดกราฟ Soft and Hard magnets 2.4 เกี่ยวกับ Hund and Pauli Laws มาเสียคะแนนตรงข้อย่อย b and c ส่วน a ถ้าจำการจัดเรียง
electron ธาตุ Transition ที่เลขก่อน 30 ได้ก็ทำได้ 2.5 เป็นการพิสูจน์ซึ่งง่ายมากทำให้ข้อยากในบทนี้ไปอยู่ที่
2.2-2.3
คำแนะนำ : 1.วิชานี้ใช้ความเข้าใจมากกว่าจำ 2. ทำโจทย์ในTextbook 3.อะไรที่ออกในQuizไปแล้วจะไม่นำมาออกสอบหลักอีก
หนังสือแนะนำ :
หนังสือ |
Principle of
Electronic Materials and Devices |
Authors: S.O.
Kasap ISBN: 0078028183 Publisher: McGraw-Hill Note: Fourth Edition, 2017 |
หนังสือ |
Electrical
Properties of Materials |
Authors: Laszlo
Solymar (Author), Donald Walsh (Author), Richard R. A. Syms (Author) ISBN:
978-0198829942 Publisher: Oxford University Press Note: This 10th edition
(November 27, 2018) is the update version of Solymar and Walsh's
"Lectures on Electrical Properties of Materials", Oxford, 5th
Edition |
หนังสือ |
Introduction to
the Electronic Properties of Materials |
Authors: David
C. Jiles (Author) ISBN: 978-1138422377 Publisher: CRC Press Note: 2 edition
(July 27, 2017) |
หนังสือ |
Understanding
Solids: The Science of Materials |
Authors:
Richard J. D. Tilley (Author) ISBN: 978-1118423462 Publisher: Wiley Note: 2nd
edition (May 28, 2013) |
หนังสือ |
The Science and
Engineering of Materials |
Authors: Donald
R. Askeland (Author), Wendelin J. Wright (Author) ISBN: 978-1305076761
Publisher: Cengage Learning Note: 7th edition (January 1, 2015) |
ELECTRIC CIRCUIT LABORATORY
(เหมือนหลักสูตรเก่าแค่เอาทุกแลปมาเทอมปลายหมด)
ความยาก : 6.0 / 10
การตัดเกรด : F < 55 and
A >= 85 เกรดที่เหลืออิงกลุ่มเอา
เนื้อหาที่เรียน
รีวิววิชาเรียน :
รีวิว สอบครั้งที่ 1 EE Lab
สอบตามวันที่ตัวเองลงเรียนไว้โดนในทุกวันแบ่งนิสิตเป็น2กลุ่มกลุ่มแรกลำดับที่ 1-14 สอบเวลา 13:30-15:00
กลุ่มสองลำดับที่
15-28 สอบเวลา 15:00-16:30 โดยมี3ฐาน
ฐานละหัวข้อ ไม่ออกบท Proteus ที่เรียนออนไลน์ ทุกคนมีเวลาทำฐานละ 20 นาทีโดยในแต่ละฐานก็ให้วัดค่าต่างๆของวงจรโดยใช้อุปกรณ์ที่เตรียมไว้ให้แล้วให้บันทึกใส่กระดาษการทดลองโดยต้องให้อาจารย์เซ็นว่าผ่านถึงจะไปทำหัวข้อต่อไปในฐานเดียวกันได้และถ้าทำหัวข้อไหนไม่ได้ในแต่ละฐานก็เรียกอาจารย์ได้แต่ก็โดนหักคะแนนไป
รีวิว สอบครั้งที่ 2 EE Lab
สอบตามวันที่ตัวเองลงเรียนไว้โดนในทุกวันแบ่งนิสิตเป็น2กลุ่มกลุ่มแรกลำดับที่ 1-14 สอบเวลา 15:00-16:30
กลุ่มสองลำดับที่
15-28 สอบเวลา 13:30-15:00 สอบบที่ 6-8 รูปแบบการสอบ การได้คะแนน
เหมือนครั้งแรกแต่ใช้เวลาทำนานกว่าและยากกว่า
คำแนะนำ : 1.วิชานี้อย่าเข้าสายเพราะจะพลาด Quiz 2. ส่งรายงานให้ครบยกเว้น Proteusที่ไม่มีถ้าขาดรายงานแค่บทเดียว
F ทันที 3.อ่านบรีฟแลปมาก่อน
หนังสือแนะนำ : ไม่มี
วิชานี้ไม่ประกาศคะแนนลงใน
MCV
Communication and Presentation Skills
ความยาก : 6.5 / 10
การตัดเกรด : < 40 = F and >= 85 = A เกรดที่เหลืออิงกลุ่มเอา
การเก็บคะแนน : Resume and Cover
letter 10 points Job Interview practice 5 points Job Interview 10 points
Meeting practice 5 points Meeting and discussion 15 points Solo presentation
practice 5 points Solo presentation 20 points
Final exam 30 points
No Midterm Jaa ไม่มีคะแนนเช็คชื่อแต่ถ้าเข้าเรียนไม่ถึง 80% = มส และถ้าขาด Solo Presentation หรือ ปลายภาค หรือทั้งคู่ F ทันที
เนื้อหาที่เรียน
Unit 1 Job Application Unit 2 Group Meeting and
Discussion and Unit 3 Presentation
รีวิววิชาเรียน :
รีวิว Job Interview Practice Com Pres Skill
ก็ตามชื่อเลยเป็นการฝึกซ้อมก่อนสอบจริงในสัปดาห์หน้า(ถ้าเซคที่ไม่ได้เรียนวันพุธจะไปสอบในอีกสองสัปดาห์หน้า)ก็สอบกับอาจารย์ในเซคของเราเลยสอบแบบใครพร้อมก็เข้าห้องสอบซึ่งคือห้องเรียนได้เลยส่วนใครที่ยังไม่ได้สอบก็ให้นั่งรอด้านนอกห้องไปก่อนถ้าสอบเสร็จแล้วกลับบ้านได้เลยยของข้าที่สอบไปโดนให้ไปแก้หลักๆ3เรื่อง 1.ก่อนเข้าห้องให้เคาะประตู 2.ให้ถามว่า Can
I have a seat ก่อนกล่าวว่า
Good Afternoon และให้ตอบแต่ละคำถามยาวกว่านี้ เต็ม 5 คะแนนข้าได้ 4
รีวิว Job Interview Post Test Com Pres Skill
หลังจากซ้อมไปสัปดาห์ต่อมาก็สอบเลยโดยสอบครั้งนี้เรียงตามเลขรหัสนิสิตใครที่ยังไม่สอบก็รอถึงคิวคำถามที่ถามก็อยู่ในไฟล์เอกสารในMCV ของข้าได้อาจารย์คนไทยแต่ไม่พูดภาษาไทยเลยแม้แต่คำเดียวและอาจารย์บอกว่าถ้าคำถามอาจารย์อันไหนได้ยินไม่ชัดบอกได้เลย(อาจารย์บอกว่าข้าเป็นคนแรกของเซคที่เคาะประตูก่อนเข้าห้องและถามCan I have a seat?)อาจารย์บอกนึกว่าเซคนี้จะไม่มีคนพูดแล้ว
55555 สรุปข้าได้ 7.5/10
รีวิว Meeting and Discussion Practice Com Pres Skill
แบ่งกลุ่ม
กลุ่มละ 5-7 คน
กลุ่มอ้ายมี 6 คน
โดนให้พูดคุยเกี่ยวกับการเลือกห้องประชุมในโรงแรมในกรุงเทพมา 1 ที่จาก 3 ที่ที่อาจารย์ในเซคสุ่มให้เราเพื่อให้เลือกเหลือแค่
1 ที่
โดยรายละเอียดในแต่ละโรงแรมมีอยู่ในไฟล์หนังสือออนไลน์ pdf ใน MCV มีทั้งหมด
6 ที่โดยทุกคนต้องมีบทบาท(ขออิงจากกลุ่มอ้ายนะ) ประธาน 1 คน เลขา 1 คน
คนเสนอ 2 คน
คนแย้ง 1 คน
แต่ละคนพูดคุยละไม่เกิน 2 นาที
รีวิว Meeting and Discussion Post Test Com Pres Skill
สอบกับอาจารย์ในเซค
เซคอ้ายอาจารย์ใช้การสุ่มว่าใครได้อันดับที่เท่าไหร่ซึ่งตอนสอบจริงก็เหมือนการซ้อมคือกลุ่มที่ยังไม่ได้นำเสนอรออยู่ด้านนอกห้องไปก่อน
ตอนสอบก็พูดให้ไหลๆอย่าเกร็ง ใครที่เป็นฝ่ายเสนอก็ให้เหตุผลดีๆว่าทำไมถึงอยากเลือก
ฝ่ายค้านก็เช่นกันว่าทำไมถึงไม่อยากให้จัด
รีวิว Solo Presentation Practice Com Pres Skill
เป็นการนำเสนอเดี่ยวที่หน้าห้องแล้วมีคนอื่นในเซคนั่งฟังเรากับอาจารย์หัวข้อคืออะไรก็ได้ที่เกี่ยวกับทางวิศวกรรม(ไม่จำเป็นต้องเกี่ยวกับสาขาตัวเองและอย่าเป็นหัวข้อเชิงลึกเกินไป)ของเราเป็น
How Electrical
Engineering has changed the world นำเสนอ 4-5 นาทีต่อคน+ต้องมีสไลด์ในการนำเสนอไม่
PowerPoint ก็ Canvas อาจารย์ก็จะบอกเราว่าต้องแก้ตรงไหนในการพูดบ้าง
ข้อความสไลด์ พื้นหลัง บลาๆ
รีวิว Solo Presentation Post Com Pres Skill
เหมือนตอนซ้อมต่างแค่จะถูกแบ่งกลุ่ม
กลุ่มละ 5-6คน
เข้าห้องทีละกลุ่มพอเรานำเสนอคนอื่นในกลุ่มก็จะนั่งฟังพอทุกคนในกลุ่มนำเสนอหมดแล้วถึงจะออกห้องเพื่อให้กลุ่มถัดไปเข้ามา
รีวิว ปลายภาค Com Pres Skill
ข้อสอบมี
45 ข้อแบ่งเป็น
2 พาร์ท
พาร์ทแรกมี 30 ข้อ
บทที่เรียนละ 10
ข้อ
เป็นการฟังทั้งหมดโดยในบทเดียวกันถามเรียงเลยข้อไม่กระโดดไปมา ข้อ 21-30 จะยากสุดในพาร์ทนี้
พาร์ทสองมี 15 ข้อ ข้อ 36-40 เป็นการเขียนตอบเกี่ยวกับการประชุม
ประมาณว่าประโยคที่ Chairman ควรพูดในเรื่องต่างๆ
ที่เหลือเป็นการฟังแล้วให้เราแสดงความคิดเห็นต่างๆ
คำแนะนำ : 1.ฝึกภาษากาย
2.ทำสไลด์ให้ดีๆ 3.อย่าเข้าเรียนสายเพราะอาจโดนเช็คขาดได้
หนังสือแนะนำ :
ไฟล์เอกสารใน MCV only
PHYSICAL THERAPY FOR DAILY LIFE
ความยาก : 5.5 / 10
การตัดเกรด : S เมื่อได้คะแนนตั้งแต่ 70 ขึ้นไป
การเก็บคะแนน : Quiz 10 points Poster 25 points Video 25 points Final
exam 40 points
เนื้อหาที่เรียน :
รีวิววิชาเรียน :
วิชานี้เปิดให้ลงเป็นแค่ GenEDโดยเปิดทั้ง2เทอมเรียนออนไซต์ที่จุฬาพัฒน์13ไม่ถึง 5 ครั้งที่เหลือออนไลน์แบบให้ไปดูคลิปเองด้วยนั้นคือดูวันไหนก็ได้เพราะไม่มีการลบคลิป
ควิซส่งก่อนสัปดาห์หน้าของวันที่เรียน ทุกบทที่เรียนมีควิซหมด
งานวิดีโอกับโปสเตอร์เป็นงานกลุ่มกลุ่มเดียวกันกลุ่มละ 5-6 คนโดยแต่ละคนในกลุ่มเลือกกันทำได้ว่าใครจะทำงานไหนไม่จำเป็นต้องทำทั้งสองงาน
โดยหัวข้ออาจารย์จะให้หัวข้อมา 4 หัวข้อแล้วให้เราเลือกมา 2 หัวข้อ ทำโปสเตอร์ขนาด A4 1 หัวข้อและอีกหัวข้อทำเป็นวิดีโอความยาวไม่เกิน 10 นาที ส่วนสอบปลายภาคออก 10 บทที่เรียนมี 40 ข้อ
ให้เวลา 1 ชั่วโมง 13:00-14:00 ช้อยส์4ตัวเลือกโดยจำนวนข้อในแต่ละบทไม่ได้ออกเท่ากันบทท้ายๆจะมีจำนวนข้อที่เยอะ
คำแนะนำ : 1.ดูคลิปทุกบท
2.ควิซทุกครั้งลอกเน็ตได้ 3.เคลียร์งานให้เสร็จอย่างน้อยสอง2สัปดาห์ก่อนสอบจะได้มีเวลาไปอ่านวิชาอื่น
หนังสือแนะนำ :
- กายภาพบำบัดในผู้สูงอายุ, รศ.สมนึก กุลสถิตพร, 2549 - Gormley J, Hussey J. Exercise therapy: prevention
and treatment of disease. 2005." - Laura Lee Swisher, P. and P. D. P. T.
Catherine G. Page (2005). Professionalism in Physical Therapy: History,
Practice, and Development, Elsevier Health Sciences. - Porter, S. (2013).
Tidy's Physiotherapy, Elsevier Health Sciences.
วิชานี้ไม่มีประกาศคะแนนลงใน
MCV
ENVIRONMENTAL STUDIES
ความยาก : 5.0 / 10
การตัดเกรด : S เมื่อได้คะแนนตั้งแต่ 60 ขึ้นไป
การเก็บคะแนน : การบ้าน 10 คะแนน เข้าเรียน 10 คะแนน โปรเจค 80 คะแนน
เนื้อหาที่เรียน
รีวิววิชาเรียน :
วิชานี้เป็นวิชาวิศวะภาคสิ่งแวดล้อมเปิดสอนแค่เทอมปลาย
การบ้านคือเป็นงานเดี่ยว 1 งานและงานกลุ่ม 2 งาน งานกลุ่มทั้ง 2 งานเป็นกลุ่มเดียวกัน
กลุ่มละ 3-5
คนให้เขียนว่าจะแก้ปัญหาที่อาจารย์กำหนดมายังไงเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม
โปรเจคเป็นงานกลุ่ม กลุ่มละ 8-10 คนทำหัวข้ออะไรก็ได้เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมโดยอาจารย์จะดูความคืบหน้าของทุกกลุ่มเป็นระยะๆโดยส่งในรูปแบบของวิดีโอความยาวไม่เกิน
10 นาทีกลุ่มเราเป็นการสัมภาษณ์การใช้ชีวิตของ
วีแกน มังสวิรัติ และคนทั่วไป โดยถามคำถามทั่วไปกับคำถามเฉพาะ + เรื่อง Carbon
Footprint
คำแนะนำ : 1.เข้าทุกคาบโดยเฉพาะคาบที่มีแขกรับเชิญมา
2.วิศวะไม่สามารถลงเป็น
GenED ได้ต้องลงเป็นเลือกเสรีแต่ยังใช้ตอนเรียนเดียวกันนั้นคือ 71 3.เคลียร์งานให้เสร็จอย่างน้อยสอง2สัปดาห์ก่อนสอบจะได้มีเวลาไปอ่านวิชาอื่น
หนังสือแนะนำ :
ไม่มี
วิชานี้ไม่มีประกาศคะแนนลงใน
MCV
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น